ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ได้ประกาศยุติการรับจองรถ Jimny Nomade โฉม 5 ประตูชั่วคราว หลังจากเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ยอดจองทะลุ 50,000 คันภายในเวลาเพียง 4 วัน ส่งผลให้ลูกค้าที่สั่งจองไปแล้วอาจต้องรอรับรถนานสูงสุดถึง 4 ปี
ภาพรวมของ Jimny Nomade
Jimny Nomade เป็นรถอเนกประสงค์ 5 ประตูที่พัฒนาต่อยอดจาก Jimny Sierra รุ่น 3 ประตูในญี่ปุ่น โดยถูกผลิตและนำเข้าจากประเทศอินเดีย รุ่นนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงด้านความสะดวกสบายและพื้นที่ภายใน โดยเพิ่มประตูคู่หลังเพื่ออำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลงของผู้โดยสาร และเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารให้กว้างขึ้น
คุณสมบัติเด่นและการปรับปรุง
- การออกแบบ:
ปรับดีไซน์ด้วยการเพิ่มประตูคู่หลังและปรับปรุงพื้นที่ภายในให้กว้างขึ้น เช่น legroom เพิ่มขึ้นประมาณ 90 มิลลิเมตร, เบาะหลังเลื่อนถอยหลังเพิ่มอีก 50 มิลลิเมตร และพื้นที่บรรทุกสัมภาระหลังเบาะเพิ่มขึ้นอีก 359 มิลลิเมตร - ขุมพลัง:
ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมตัวเลือกเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ - ระบบขับเคลื่อน:
ขับเคลื่อนแบบ Part-time 4 ล้อที่สามารถปรับโหมดได้ 3 รูปแบบ (2H, 4H, 4L) เพื่อรองรับสภาพถนนที่หลากหลาย
เปรียบเทียบราคาและตำแหน่งในตลาด
ในตลาดญี่ปุ่น Jimny Nomade ตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,651,000 เยน (ประมาณ 575,000 บาท) สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา (MT) และ 2,750,000 เยน (ประมาณ 605,000 บาท) สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ (AT) ซึ่งสูงกว่ารุ่น Jimny Sierra ที่มีราคาประมาณ 1,962,400 – 2,084,500 เยน (ประมาณ 434,000 – 460,000 บาท) ด้วยคุณสมบัติและการปรับปรุงที่พัฒนาขึ้น
ผลกระทบจากยอดจองสูงและการยุติการรับจอง
การรับจอง Jimny Nomade ทะลุ 50,000 คันภายในเวลาเพียง 4 วันแสดงให้เห็นถึงความนิยมอย่างล้นหลามในตลาดญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การตอบรับที่สูงนี้ส่งผลให้ซูซูกิต้องยุติการรับจองชั่วคราว เพื่อให้สามารถจัดการกับยอดจองที่เกินความสามารถในการผลิตและอาจทำให้ลูกค้าต้องรอรับรถสูงสุดถึง 4 ปี ซึ่งเป็นความท้าทายด้านการวางแผนผลิตและการจัดส่งในอนาคต
สรุป
ซูซูกิ ยุติการรับจอง Jimny Nomade โฉม 5 ประตูชั่วคราว เนื่องจากยอดจองทะลุ 50,000 คันภายใน 4 วัน ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าบางรายอาจต้องรอรับรถนานถึง 4 ปี แม้ว่ารุ่นนี้จะมีการปรับปรุงด้านดีไซน์และความสะดวกสบายอย่างชัดเจน แต่การบริหารจัดการยอดจองที่สูงเกินไปในตลาดญี่ปุ่นก็เป็นความท้าทายที่ซูซูกิต้องแก้ไขในอนาคต.