การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ สามารถทำได้สะดวก ไม่ต้องเดินทางไปที่กรมขนส่งทางบก เพียงแค่ทำผ่านเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน ก็สามารถรับเอกสารได้ที่บ้านได้อย่างสบาย ๆ มาดูกันว่ามีขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ อย่างไรบ้าง
เงื่อนไขสำหรับการต่อภาษีรถออนไลน์
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (ไม่เกิน 7 คน), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี ต้องผ่านการตรวจสอบสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)
- รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ก็ต้องผ่านการตรวจสภาพเช่นกัน
- รถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี ก็สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้หลังผ่านการตรวจสภาพ
ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
1. เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
- เข้าเว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax (ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android)
- สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน ให้กด “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่” กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนแล้วกด “บันทึก”
2. เลือกเมนูชำระภาษี
- เมื่อเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว เลือกเมนู “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต”
3. ลงทะเบียนรถ
- กรอกข้อมูลรถ เช่น ประเภทรถ จังหวัด เลขทะเบียนรถ แล้วกด “บันทึก”
4. ยื่นชำระภาษี
- เมื่อข้อมูลรถปรากฏในระบบแล้ว ให้กด “ยื่นชำระภาษี”
5. กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร
- กรอกข้อมูลสำหรับจัดส่งเอกสารให้ครบถ้วน แล้วเลือก “วิธีชำระเงิน”
6. เลือกวิธีชำระเงิน
คุณสามารถเลือกชำระผ่าน 3 ช่องทาง:
- ธนาคาร (มีค่าธรรมเนียม 20 บาท)
- บัตรเครดิต/เดบิต (ค่าธรรมเนียม 2% จากยอดชำระ)
- เคาน์เตอร์บริการ (อาจมีค่าบริการเพิ่มเติม)
7. รอรับเอกสารที่บ้าน
- หลังจากชำระเงินเสร็จสิ้น ระบบจะใช้เวลา 5-10 วันทำการในการส่งเอกสารถึงที่บ้าน หากต้องการตรวจสอบสถานะการจัดส่ง สามารถเช็กผ่านเว็บไซต์หรือแอปได้
ช่องทางการชำระภาษี
- ผ่านเว็บไซต์: eservice.dlt.go.th
- ผ่านแอปพลิเคชัน: ดาวน์โหลดแอป DLT Vehicle Tax ได้ที่ App Store และ Google Play
ข้อดีของการต่อภาษีออนไลน์
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง
- สามารถชำระภาษีล่วงหน้าได้ 90 วันก่อนภาษีหมดอายุ
- เลือกวิธีชำระเงินได้หลายช่องทาง
- ตรวจสอบสถานะการชำระและจัดส่งได้ง่าย
การต่อภาษีออนไลน์สะดวกและง่าย แถมช่วยลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้านโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความจำเป็น