การขับรถผ่านน้ำท่วม เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง หากไม่สามารถเลี่ยงได้ การตรวจสอบระดับน้ำท่วมอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายต่อรถยนต์ และความปลอดภัยของผู้ขับขี่
วิธีเช็กระดับน้ำท่วมโดยไม่ต้องลงจากรถ
1. สังเกตรถคันอื่น
- รถที่สวนมา: สังเกตระดับน้ำที่เกาะตามตัวรถ และฟังเสียงเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไปเมื่อลุยน้ำ เพราะอาจบ่งบอกถึงระดับน้ำได้
- รอยน้ำที่ติดอยู่ตามตัวรถคันอื่น: รอยน้ำที่ติดบนรถคันอื่นสามารถบ่งบอกระดับน้ำสูงสุดที่รถคันนั้นลุยมาได้
2. สังเกตสิ่งของรอบข้าง
- เสาไฟฟ้า: สังเกตรอยน้ำที่ติดอยู่บนเสาไฟฟ้า หรือระดับน้ำที่ท่วมถึงเสา
- ป้ายบอกทาง: ดูระดับน้ำที่ท่วมถึงป้ายบอกทาง หรือรอยน้ำที่ติดตามป้าย
- ต้นไม้: สังเกตรอยน้ำที่ติดอยู่บนลำต้น หรือระดับน้ำที่ท่วมถึงต้นไม้
3. ใช้ตัวรถเป็นเกณฑ์
- ขอบประตู: ระดับน้ำไม่ควรสูงเกินขอบประตู เพราะน้ำอาจซึมเข้าสู่ตัวรถได้
- ท่อไอเสีย: ระดับน้ำไม่ควรสูงเกินท่อไอเสีย เพราะอาจทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ได้
- ช่วงล่าง: ระดับน้ำไม่ควรสูงเกินครึ่งล้อ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบช่วงล่าง
เมื่อใดควรหยุดรถและหันหลังกลับ
- ระดับน้ำสูงเกินไป: หากระดับน้ำสูงเกินขอบประตู หรือท่วมถึงท่อไอเสีย ควรหยุดรถและหาทางกลับ
- กระแสน้ำแรง: หากน้ำมีการไหลแรง ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่าน
- มองไม่เห็นพื้นถนน: หากน้ำท่วมจนมองไม่เห็นพื้นถนน หรือมีวัตถุลอยอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการขับผ่านเพื่อความปลอดภัย
การหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด และควรติดตามข้อมูลสภาพอากาศและจราจรอย่างใกล้ชิด