Mazda6e

Mazda6e ซีดานไฟฟ้า 100% โชว์ตัวครั้งแรกในไทย

Mazda6e รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากมาสด้า ได้เผยโฉมครั้งแรกในไทยที่งาน Bangkok International Motor Show 2025 พร้อมยืนยันเตรียมวางจำหน่ายจริงภายในปีนี้ โดยถือเป็นก้าวสำคัญของมาสด้าในการรุกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ


Mazda6e ดีไซน์สปอร์ต สไตล์คูเป้ พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย

Mazda6e ได้รับการพัฒนาโดยอิงพื้นฐานร่วมกับ Changan Deepal L07 จากความร่วมมือระหว่าง Mazda และ Changan Automobile ซึ่งดำเนินมายาวนานกว่า 20 ปี ตัวรถมาพร้อมเส้นสายสปอร์ตแบบรถคูเป้ ติดตั้งประตูแบบ ไร้กรอบหน้าต่างทั้ง 4 บาน ให้ความรู้สึกหรูหราและล้ำสมัย

  • ไฟหน้าแบบ Signature Wing พร้อมแสดงสถานะขณะชาร์จไฟ
  • ไฟท้ายยาวพาดทั้งด้านหลัง
  • สปอยเลอร์ไฟฟ้าหลังช่วยเพิ่มแรงกดอากาศ
  • ฝากระโปรงท้ายติดตั้งตัวอักษร “MAZDA” แทนโลโก้

ภายในพรีเมียม พร้อมจอคู่เต็มระบบ

ห้องโดยสารของ Mazda6e ให้ความหรูหราด้วย หลังคากระจกพาโนรามิก และมี 2 สไตล์การตกแต่งให้เลือก

  • Takumi : เบาะหนังสังเคราะห์สีดำหรือสีเบจ
  • Takumi Plus : เบาะหนัง Nappa สีแทน

อุปกรณ์ภายในเด่น ๆ ได้แก่

  • จอสัมผัสกลางขนาด 14.6 นิ้ว
  • จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.2 นิ้ว
  • ระบบ Head-up Display แบบเสมือนจริง
  • พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 330 ลิตร และหน้า 70 ลิตร

Mazda6e ขุมพลังไฟฟ้า แรง-วิ่งไกล-ชาร์จเร็ว

Mazda6e สำหรับเวอร์ชันยุโรปมีให้เลือก 2 ขนาดแบตเตอรี่ พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

รุ่นแบตเตอรี่ 68.8 kWh

  • ระยะทางขับขี่สูงสุด 483 กม.
  • กำลังสูงสุด 258 แรงม้า
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.6 วินาที
  • รองรับชาร์จด่วน DC 200 kW
    • ชาร์จ 10-80% ภายใน 22 นาที
    • ชาร์จ 15 นาที วิ่งได้ 233 กม.

รุ่นแบตเตอรี่ 80 kWh

  • ระยะทางขับขี่สูงสุด 555 กม.
  • กำลังสูงสุด 244 แรงม้า
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.8 วินาที
  • ชาร์จด่วน 10-80% ภายใน 45 นาที

ทั้งสองรุ่นให้แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร


ชมคันจริงได้แล้วที่ Motor Show 2025

ผู้สนใจสามารถสัมผัส Mazda6e คันจริงได้ที่บูธ Mazda ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Mazda ในการผลักดันไทยสู่การเป็นฐานการผลิต xEV ระดับภูมิภาค พร้อมเป้าหมายเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง HEV, PHEV และ BEV ครบใน 3 ปีข้างหน้า.