Volvo Cars ได้ประกาศยุติแผนการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว 100% หลังจากพบว่าการตอบรับของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทจะปรับเป้าหมายใหม่ เน้นทำตลาดรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid (PHEV) และ EV ควบคู่กันแทน
เหตุผลที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ Volvo Cars
- ตลาด EV โตช้ากว่าที่คาด: ผู้บริหารของ Volvo Cars ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงให้โลกหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวใช้เวลานานกว่าที่วางแผนไว้ ซึ่งส่งผลให้เป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวภายในปี 2573 อาจไม่เป็นไปตามแผน
- ปัจจัยที่ชะลอการนำ EV มาใช้:
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟที่เชื่องช้า
- หลายประเทศลดหรือยกเลิกมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า
แผนกลยุทธ์ใหม่
Volvo Cars ตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายรถยนต์ Plug-in Hybrid (PHEV) และ EV รวมกันให้ได้ 90-100% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ (ปี 2573) โดยยังคงมียอดจำหน่ายรถยนต์สันดาปอยู่ในตลาดนานกว่าที่คาดไว้ตอนแรก
สำหรับในระยะสั้น Volvo คาดว่าภายในปี 2568 จะสามารถทำยอดจำหน่ายรถยนต์ PHEV และ EV รวมกันให้ได้ประมาณ 50-60% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2567 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 26% ของยอดขายทั้งหมด
สรุป
Volvo Cars ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อมุ่งเน้นการทำตลาดรถยนต์ PHEV และ EV ควบคู่กัน แทนการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลานานกว่าที่คาดและยังคงมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาด EV