ความหมายของสีป้ายจราจร ที่ต้องรู้ เพื่อความปลอดภัย

ป้ายจราจรบนถนน มีหลากหลายสีและรูปแบบ ซึ่งแต่ละสีก็มีความหมายเฉพาะตัว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าสีของป้ายจราจรแต่ละประเภทหมายถึงอะไร


ประเภทของป้ายจราจรตามสีพื้นหลัง

1. ป้ายพื้นสีขาว – ป้ายบังคับและป้ายเตือน

  • ป้ายบังคับ: มีขอบสีแดงและสัญลักษณ์สีดำ เช่น
    • ป้ายห้ามเลี้ยวขวา
    • ป้ายห้ามกลับรถ
    • ป้ายจำกัดความเร็ว
  • ป้ายเตือน: มีขอบสีดำและสัญลักษณ์สีดำ เช่น
    • ป้ายทางโค้ง
    • ป้ายทางแคบ
    • ป้ายทางขรุขระ

หน้าที่: บังคับให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัย


2. ป้ายพื้นสีเหลือง – ป้ายเตือน

  • ใช้เตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง เช่น
    • ป้ายเตือนทางแยก
    • ป้ายเตือนเขตโรงเรียน
    • ป้ายเตือนข้ามทางรถไฟ

หน้าที่: แจ้งเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า


3. ป้ายพื้นสีส้ม – ป้ายเตือนเกี่ยวกับงานก่อสร้าง

  • พบได้บริเวณพื้นที่มีการซ่อมแซมหรือก่อสร้างถนน เช่น
    • ป้ายเตือนทางเบี่ยง
    • ป้ายเตือนคนทำงาน
    • ป้ายเตือนเครื่องจักรกำลังทำงาน

หน้าที่: เตือนให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับผ่านเขตก่อสร้าง


4. ป้ายพื้นสีฟ้า – ป้ายแนะนำหรือบอกข้อมูล

  • ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ขับขี่ เช่น
    • ป้ายบอกเส้นทาง
    • ป้ายบอกระยะทาง
    • ป้ายบอกสถานที่สำคัญ

หน้าที่: ให้คำแนะนำหรือข้อมูลเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางได้สะดวกขึ้น


5. ป้ายพื้นสีแดง – ป้ายห้ามหรือป้ายหยุด

  • ใช้บังคับให้ผู้ขับขี่หยุดหรือห้ามกระทำการบางอย่าง เช่น
    • ป้ายหยุด
    • ป้ายห้ามเข้า
    • ป้ายห้ามจอด

หน้าที่: ป้องกันอุบัติเหตุและควบคุมการจราจรให้เป็นไปอย่างมีระเบียบ


สรุป

  • ป้ายจราจรแต่ละสี มีหน้าที่แตกต่างกัน ควรสังเกตและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • ช่วยลดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
  • ทำให้การจราจรเป็นไปอย่างราบรื่น

การทำความเข้าใจความหมายของป้ายจราจรจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และทำให้ทุกการเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น4oHumanize 378 words